SALT & STRAW ไอศครีมรถเข็นหัวมุมถนน สู่ธุรกิจพลิกโฉมอุตสาหกรรม
Career developmentWorking lifestyle articles | By

เป็นคุณ คุณจะยอมเสียเวลาต่อแถว 45 นาที เพื่อลองชิมไอศครีมรสแพร์แอนด์บลูชีสไหม? แล้วถ้าเป็นรสเชอร์เบทแอปเปิ้ลผสมวาซาบิล่ะ?
ซอลท์ แอนด์ สตรอล ทำให้ลูกค้ารอได้!! ไอศกรีมแปรรูปสุดครีเอทีพจาก Portland โดดเด่นด้วยรสชาติฮิป และคาดไม่ถึงอย่างรสน้ำปลา รสน้ำซุปมิโซะ จนเผลอออุทานว่า เห้ยยย! แบบนี้ก็ได้เหรอ และยังมีอีกหลายเมนูแปลกๆ ให้ลูกค้าได้ทดลองชิมจนจุใจ
ทุกวันนี้โลกของเรามาไกลมากจนแทบไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้แล้วจริงๆ มาดูกันว่า Key Success ของร้านไอศครีมนี้คืออะไร? เรื่องราวของ Kim (เจ้าของแบรนด์ Salt & Straw) กับการไต่เต้าขึ้นมาจากการขายไอศครีมตามหัวมุมถนนมาสู่ธุรกิจที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะไรที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในวงการนี้?

ความมั่นคงในจุดยืน :
เชื่อว่าสายงานบริการเป็นสายงานที่ทรงพลัง
สมัยที่เรียนวิทยาลัย คิมเคยเป็นบาริสต้าที่สตาร์บัคส์ หลังจากที่เรียนจบ ก็ถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายการตลาด ในตอนนั้นสตาร์บัคส์ยังมีแค่ 30 สาขาเท่านั้น “พ่อแม่ฉันก็เสียใจนะ เพราะพวกท่านคิดว่างานที่นั่นไม่ใช่งานที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็ยังทำต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านกาแฟที่ไม่มีชื่อเสียงก็ตาม เพราะ เชื่อว่าสักวันฮาวเวิร์ดต้องทำให้ธุรกิจนี้ยิ่งใหญ่แน่นอน” คิมกล่าว
SALT & STRAW ยึดพนักงานเป็นศูนย์กลาง :
บทเรียนที่ได้มาจากฮาวเวิร์ด
แรงงานคนเป็นปัจจัยแรกที่นักธุรกิจควรคำนึง แม้จะเป็นแค่ลูกจ้างขั้นต่ำของสตาร์บัคส์ แต่ความเคารพที่คิมได้รับ ทำให้รู้สึกราวกับว่าอนาคตขององค์กรถูกฝากไว้กับเธอจริงๆ ทุกวันนี้ ซอลท์แอนด์สตรอล ก็ทำแบบเดียวกัน มีสวัสดิการสำหรับการลาคลอด ประกันสุขภาพ และจัดอบรมด้านการพัฒนาตัวเองให้แก่พนักงานทุกคน การคำนึงถึงบุคลากรนั้นจะทำให้ธุรกิจของคุณก้าวไปได้ไกล จงดูแลพวกเขาให้ดี เพราะคนเหล่านี้ล้วนมีส่วนให้คุณประสบความสำเร็จ จงเชื่อมั่นในลูกจ้างของคุณ
ไอเดียที่แปลกใหม่ :
อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ
คนบางคนอาจติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ เลยไม่กล้าลองสิ่งใหม่ ของบางสิ่งก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป อาหารและงานบริการก็ไม่ควรจะเป็นอะไรที่ธรรมดาเช่นกัน ทุกอย่างสามารถผลิตหรือประกอบขึ้นมาใหม่ในหลากหลายสถานการณ์โดยที่ไม่มีใครเคยคาดคิด

ไม่มีคำว่ากลัวๆ กล้าๆ :
คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง
เมื่อตัดสินใจแล้วก็อย่าทำอะไรแบบลังเล “ฉันทำในสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้ทำ ลงทุนเงินสดไปสี่แสนกว่าเหรียญ ทุกคนห้ามไว้หมดเลย มีแค่สามีที่สนับสนุนให้กลับมาทำร้านไอศครีม เพราะเป็นความฝันของฉัน ประจวบเหมาะกับในตอนนั้นญาติของฉันอยากไปเรียนทำอาหารพอดี ไปๆ มาๆ เขาก็ย้ายมาอยู่ในห้องใต้ดินบ้านฉัน และเราก็เริ่มคิดสูตรไอศครีมกัน”
แต่หลังจากที่ตัดสินใจเดินหน้าขยายแผนธุรกิจไอศครีม เธอก็พบประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวด นักลงทุนคนนึงเคยตอบกลับมาด้วยหมึกสีแดง แสดงถึงความไม่ชอบเลยสักนิด และบนหัวกระดาษถูกเขียนว่า “อย่างเธอน่ะ ทำไม่ได้หรอก คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เป็นสตาร์บัคส์รึไง” แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิมหยุดอยู่แค่นั้น แล้วดูตอนนี้สิ!
ร่วมเผชิญปัญหากับลูกน้อง :
จงเป็นผู้นำที่สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน
หลังจากลาออกจากสตาร์บัคส์ เธอก็เข้าทำงานต่อที่ RED (บริษัทต่อต้านการระบาดโรคเอดส์ ในแอฟริกา) ก่อตั้งโดย Bono (สมาชิกวง U2) “เขาเป็นคนสุภาพมากๆ ฉันจำได้ว่ามีครั้งนึง เรามีปัญหาเรื่องโปรเจ็คใหญ่ และทุกคนก็คิดว่า Bono ต้องโทรมาตวาดหัวหน้าแน่ๆ เรา ทุกคนคิดว่าเราคงทำเขาผิดหวัง แต่เขากลับโทรมาบอกพวกเราว่า เขารู้สึกเสียใจที่งานเราเกิดปัญหาขึ้น และอธิบายว่าเขาคิดอย่างไรกับโปรเจ็คนี้ ในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าตอนนี้ ฉันจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นมาโดยตลอด การร่วมเผชิญปัญหา การแสดงความรับผิดชอบ และการแสดงให้ลูกน้องดูว่า คุณสนับสนุนพวกเขามากเพียงใด เป็นสิ่งที่ผลักดันดีที่สุด ” สร้างเครือข่ายชุมชนให้แข็งแกร่ง และอย่าลืมตอบแทนพวกเขา เพราะทุกอย่างในสังคมล้วนมีผลกระทบกับการตัดสินใจของเรา



Facebook comments

เป็นคุณ คุณจะยอมเสียเวลาต่อแถว 45 นาที เพื่อลองชิมไอศครีมรสแพร์แอนด์บลูชีสไหม? แล้วถ้าเป็นรสเชอร์เบทแอปเปิ้ลผสมวาซาบิล่ะ?
ซอลท์ แอนด์ สตรอล ทำให้ลูกค้ารอได้!! ไอศกรีมแปรรูปสุดครีเอทีพจาก Portland โดดเด่นด้วยรสชาติฮิป และคาดไม่ถึงอย่างรสน้ำปลา รสน้ำซุปมิโซะ จนเผลอออุทานว่า เห้ยยย! แบบนี้ก็ได้เหรอ และยังมีอีกหลายเมนูแปลกๆ ให้ลูกค้าได้ทดลองชิมจนจุใจ
ทุกวันนี้โลกของเรามาไกลมากจนแทบไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้แล้วจริงๆ มาดูกันว่า Key Success ของร้านไอศครีมนี้คืออะไร? เรื่องราวของ Kim (เจ้าของแบรนด์ Salt & Straw) กับการไต่เต้าขึ้นมาจากการขายไอศครีมตามหัวมุมถนนมาสู่ธุรกิจที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะไรที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในวงการนี้?

ความมั่นคงในจุดยืน :
เชื่อว่าสายงานบริการเป็นสายงานที่ทรงพลัง
สมัยที่เรียนวิทยาลัย คิมเคยเป็นบาริสต้าที่สตาร์บัคส์ หลังจากที่เรียนจบ ก็ถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายการตลาด ในตอนนั้นสตาร์บัคส์ยังมีแค่ 30 สาขาเท่านั้น “พ่อแม่ฉันก็เสียใจนะ เพราะพวกท่านคิดว่างานที่นั่นไม่ใช่งานที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ฉันก็ยังทำต่อไป ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านกาแฟที่ไม่มีชื่อเสียงก็ตาม เพราะ เชื่อว่าสักวันฮาวเวิร์ดต้องทำให้ธุรกิจนี้ยิ่งใหญ่แน่นอน” คิมกล่าว
SALT & STRAW ยึดพนักงานเป็นศูนย์กลาง :
บทเรียนที่ได้มาจากฮาวเวิร์ด
แรงงานคนเป็นปัจจัยแรกที่นักธุรกิจควรคำนึง แม้จะเป็นแค่ลูกจ้างขั้นต่ำของสตาร์บัคส์ แต่ความเคารพที่คิมได้รับ ทำให้รู้สึกราวกับว่าอนาคตขององค์กรถูกฝากไว้กับเธอจริงๆ ทุกวันนี้ ซอลท์แอนด์สตรอล ก็ทำแบบเดียวกัน มีสวัสดิการสำหรับการลาคลอด ประกันสุขภาพ และจัดอบรมด้านการพัฒนาตัวเองให้แก่พนักงานทุกคน การคำนึงถึงบุคลากรนั้นจะทำให้ธุรกิจของคุณก้าวไปได้ไกล จงดูแลพวกเขาให้ดี เพราะคนเหล่านี้ล้วนมีส่วนให้คุณประสบความสำเร็จ จงเชื่อมั่นในลูกจ้างของคุณ
ไอเดียที่แปลกใหม่ :
อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ
คนบางคนอาจติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ เลยไม่กล้าลองสิ่งใหม่ ของบางสิ่งก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป อาหารและงานบริการก็ไม่ควรจะเป็นอะไรที่ธรรมดาเช่นกัน ทุกอย่างสามารถผลิตหรือประกอบขึ้นมาใหม่ในหลากหลายสถานการณ์โดยที่ไม่มีใครเคยคาดคิด

ไม่มีคำว่ากลัวๆ กล้าๆ :
คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง
เมื่อตัดสินใจแล้วก็อย่าทำอะไรแบบลังเล “ฉันทำในสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้ทำ ลงทุนเงินสดไปสี่แสนกว่าเหรียญ ทุกคนห้ามไว้หมดเลย มีแค่สามีที่สนับสนุนให้กลับมาทำร้านไอศครีม เพราะเป็นความฝันของฉัน ประจวบเหมาะกับในตอนนั้นญาติของฉันอยากไปเรียนทำอาหารพอดี ไปๆ มาๆ เขาก็ย้ายมาอยู่ในห้องใต้ดินบ้านฉัน และเราก็เริ่มคิดสูตรไอศครีมกัน”
แต่หลังจากที่ตัดสินใจเดินหน้าขยายแผนธุรกิจไอศครีม เธอก็พบประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวด นักลงทุนคนนึงเคยตอบกลับมาด้วยหมึกสีแดง แสดงถึงความไม่ชอบเลยสักนิด และบนหัวกระดาษถูกเขียนว่า “อย่างเธอน่ะ ทำไม่ได้หรอก คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน เป็นสตาร์บัคส์รึไง” แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิมหยุดอยู่แค่นั้น แล้วดูตอนนี้สิ!
ร่วมเผชิญปัญหากับลูกน้อง :
จงเป็นผู้นำที่สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน
หลังจากลาออกจากสตาร์บัคส์ เธอก็เข้าทำงานต่อที่ RED (บริษัทต่อต้านการระบาดโรคเอดส์ ในแอฟริกา) ก่อตั้งโดย Bono (สมาชิกวง U2) “เขาเป็นคนสุภาพมากๆ ฉันจำได้ว่ามีครั้งนึง เรามีปัญหาเรื่องโปรเจ็คใหญ่ และทุกคนก็คิดว่า Bono ต้องโทรมาตวาดหัวหน้าแน่ๆ เรา ทุกคนคิดว่าเราคงทำเขาผิดหวัง แต่เขากลับโทรมาบอกพวกเราว่า เขารู้สึกเสียใจที่งานเราเกิดปัญหาขึ้น และอธิบายว่าเขาคิดอย่างไรกับโปรเจ็คนี้ ในฐานะที่ฉันเป็นหัวหน้าตอนนี้ ฉันจำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นมาโดยตลอด การร่วมเผชิญปัญหา การแสดงความรับผิดชอบ และการแสดงให้ลูกน้องดูว่า คุณสนับสนุนพวกเขามากเพียงใด เป็นสิ่งที่ผลักดันดีที่สุด ” สร้างเครือข่ายชุมชนให้แข็งแกร่ง และอย่าลืมตอบแทนพวกเขา เพราะทุกอย่างในสังคมล้วนมีผลกระทบกับการตัดสินใจของเรา


